วัดพระนอนแหลมพ้อ หรือวัดแหลมพ้อ เป็นวัดเก่าแก่กว่า ๒๐๐ ปี ครั้งหนึ่งในอดีตพระบาทสมเด็จจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่ทรงประพาสทางน้ำขึ้นที่ท่าเรือหน้าวัดอีกทั้งมีประติมากรรมที่เก่าแก่ที่กรมศิลปากรขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานและมีพระพุทธรูปปางปรินิพพานองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
วัดแหลมพ้อ หรือที่หลาย ๆ คนเรียก “ วัดพระนอนแหลมพ้อ ” ถือว่าเป็นวัดที่เก่าแก่อีกวัดหนึ่งในจังหวัดสงขลา สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นตั้งแต่สมันรัตนโกสินทร์ตอนต้น โดยมีพระครูทิพวาสี ( พรหมแก้ว ) จากวัดท้ายยอมาดำนินการก่อสร้าง และเนื่องจากในพื้นที่บริเวณวัดเป็นแหลมยื่นออกไปอีกทั้งมีต้นพ้ออยู่เป็นจำนวนมาก จึงเรียกชื่อวัดกันต่อมาว่า “วัดแหลมพ้อ” ในอดีตเมื่อปี พ.ศ.๒๓๖๐ พระบามสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงเสด็จประพาสทางน้ำขึ้นท่าเรือที่บริเวณหน้าวัด
“ วัดแหลมพ้อ ” ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา ( ที่ดินที่แยกต่างหากจากที่ดินของบ้านเมือง เป็นเขตที่พระเจ้าแผ่นดินพระราชทานแก่พระสงฆ์เป็นการเฉพาะเพื่อใช้สร้างอุโบสถโดยประกาศเป็นพระบรมราชโองการ ) เมื่อวันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๔๓๑ ซึ่งทางกรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถานวัดแหลมพ้อ ในหนังสือราชกิจจานุเบกษาเล่ม ๑๑๔ ตอนพิเศษ ๘ง เมื่อวันที่ ๑๔ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๕ หน้า ๖ ว่าพื้นที่โบราณสถานประมาณ ๒ ไร่ ๑ งาน ๑๕ ตารางวา ซึ่งโบราณสถานที่สำคัญภายในวัด
“ อุโบสถ ” ที่มีรูปแบบศิลปกรรมตามพระราชนิยมในสมัยรัชกาลที่ ๓ เป็นอุโบสถมีระเบียงโดยรอบ หลังคาชั้นเดียวต่อด้วยปีกนกมุงด้วยกระเบื้องดินเผาประดับด้วยช่อฟ้า ใบระกา และหสงหงส์ หน้าบันหลังคาทางด้านหน้าประดับปูนปั้นพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ หน้าบันด้านหลังประดับปูนปั้นรูปพระนารายณ์ทรงครุฑ ส่วนหน้าบัณช่องหน้าต่างและประตูมีรูปปั้นรูปเทพพนมอยู่ท่ามกลางลายพรรณพฤกษา
“หอระฆัง” ก่ออิฐถือปูน ตัวหอเป็นทรงสี่เหลี่ยมยอดปิรามิดซ้อนลดหลั่นกันขึ้นไป มีบันไดทางขึ้นด้านข้าง ๒ ทาง ขอบบนเจาะเป็นช่องลูกกรง ประดับตกแต่งด้วยกระเบื้องกรุสีเขียวอยู่โดยรอบ ส่วนยอดหอระฆังประดับตกแต่งด้วยลวดลายปูนปั้น ลายพรรณพฤกษา
“เจดีย์” ตั้งอยู่ทิศเหนือของอุโบสถ เป็นเจดีย์ก่ออิฐถือปูนตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยม ขนาด ๙ x ๙ เมตร ฐานซุ้มต่อกับบันไดทางขึ้นเป็นลักษณะเตี้ยๆ ยกพื้นคล้ายระเบียง สามารถเดินได้รอบองค์เจดีย์ มุมขอบประดับด้วยเจดีย์องคเล็กๆ ๔ องค์ องค์ระฆังของเจดีย์ประธานตั้งอยู่บนฐานปัทม์ต่อกันเป็นชั้นๆ ด้านล่างฐานเจดีย์มีซุ้มประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้น
และสิ่งที่มีความสำคัญภายในวัดก็คือ “ องค์พระนอน ” ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางปรินิพพานที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย พระบาทมีลวดลายภาพศิลปะ สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๗ ประดิษฐานบนฐานที่ไม่สูงนัก ทั้งนี้เนื่องด้วยที่ตั้งวัดอยู่ใกล้ถนนเชิงสะพานติณสูลานนท์ฝั่งเกาะยอ จึงทำให้เป็นสิ่งที่สะดุดตาของผู้ที่ขับรถผ่านไปมา
บริเวณ “ วัดแหลมพ้อ ” นอกจากปูชนียสถานที่สำคัญ พระพุทธรูปปางปรินิพพานองค์ใหญ่ที่สวยงามแล้ว ยังมี ศาลาพระพรหม เจ้าแม่กวนอิม และพระพุทธรูปปางมารวิชัย ที่มีชื่อว่า “ สมเด็จเจ้าเกาะยอ ”